แน่นอนว่าสิ่งที่อาจเป็นเงาตามติดสำหรับใครหลายคนหลังจาก ‘เทศกาลปีใหม่’ คงหนีไม่พ้นอาการเศร้าๆ ซึมๆ เบื่อๆ เซ็งๆ เพราะยังหวนนึกถึงวันหยุดอันแสนสุขที่เพิ่งผ่านพ้นไปกันอยู่ใช่ไหม? ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูไม่สดชื่น ไม่สดใส ขาดสมาธิ ขาดแรงจูงใจ หรือว่าหมดไฟไปซะงั้น แต่ไม่ต้องแปลกใจตัวเองไปล่ะ! เพราะนี่เป็นปฏิกิริยาที่สารแห่งความสุขอย่างฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ค่อยๆ ลดระดับลงอย่างเฉียบพลัน เนื่องจากสมองของเรายังปรับตัวจากความสบายใจที่ได้ผ่อนคลายและปล่อยใจไม่ทัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้สำหรับทุกคนกับสภาวะอารมณ์ที่เรียกกันว่า ‘หดหู่หลังหยุดยาว’ (Post Vacation Blues) ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันรุนแรงอะไรนัก ทั้งยังสามารถหายไปเองได้ภายใน 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์อีกด้วย ซึ่งวันนี้บอร์เนียวฯ ขอแบ่งปัน ‘7 วิธีรับมือกับอาการหดหู่หลังหยุดยาว’ ให้คุณพร้อมกลับมาทำงานได้แบบดีต่อใจ! มา move on ให้ร่างกายและจิตใจพร้อมปรับตัวและเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ ในชีวิตตลอดทั้งปีนับจากนี้กันเถอะ~
เตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้ต้องต้องเผชิญกับความเฉาด้วยการทำความสะอาดบ้านก่อนออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อที่กลับมาแล้วจิตใจของเราจะสงบ ผ่อนคลาย ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการทำความสะอาด นอกจากนี้การลาพักผ่อนต่อเพิ่มอย่างน้อยอีกสัก 1-2 วันหลังจากวันหยุดยาว ยังสามารถช่วยฟื้นฟูทั้งในด้านร่างกายและสภาวะทางอารมณ์ ตลอดจนเตรียมความพร้อมในแง่แผนการทำงาน เอกสาร และเสื้อผ้า ก่อนกลับเข้าสู่ชีวิตในโหมดปกติ
ฟื้นฟูร่างกายที่เหนื่อยล้าด้วยอาหารจำพวกโปรตีนที่ปราศจากไขมัน ไปจนถึงผลไม้และผักสดที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ก็ช่วยเติมเต็มประโยชน์ให้กับร่างกายได้ดี ขณะเดียวกันการออกกำลังกายเพิ่มความกระฉับกระเฉงยังช่วยให้เรามีความสุขและแข็งแรง แต่ต้องทำในแบบที่ไม่หักโหมร่างกายเกินไป นอนหลับให้สนิทในสภาพแวดล้อมที่สงบให้ได้ 7-8 ชั่วโมง เพื่อซ่อมแซมและปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมองให้กลับสู่สภาวะเดิม และกลับมาสดชื่นแจ่มใสได้อย่างรวดเร็ว
หากหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) วิธีแก้แบบหนามยอกเอาหนามบ่งเลยก็คือการหาแรงจูงใจ ซึ่งเราสามารถเริ่มต้นตั้งเป้าหมายถึงความก้าวหน้าในชีวิต มองหาทักษะใหม่ๆ และข้อดีของตนเองที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงคอยสังเกตกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบและสร้างความสุข เช่น การอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกับสัตว์เลี้ยง ทำอาหาร ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อเพื่อเบี่ยงเบนจากความหดหู่ ทั้งยังได้ผ่อนคลายตัวเองความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปในตัว
เพื่อให้ชีวิตของเราเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีความสุขได้ในแต่ละวัน การวางแผนแบบสั้นๆ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวนั้นสามารถช่วยกระตุ้นให้เรามีไฟได้ เพราะเราจะได้รู้ถึงต้องทำ สิ่งที่ลุล่วง และเหตุผลของสิ่งที่ทำไปในแต่ละวัน หรือการออกไปค้นหาร้านอาหารใหม่ๆ หรือเดินเล่นในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ไกลจากที่ที่เราอยู่ก็ได้ ทว่าสิ่งที่ก็ดีไม่แพ้กันเลยก็คือการที่เราคอยรักษาความคิดที่ว่า “เราสามารถมีความสุขได้ทุกวันนะ” ก็สามารถช่วยเยียวยาจิตใจได้เช่นกัน
ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตนเองผ่านสิ่งที่มีความสุขและสบายใจ จำกัดการใช้สื่อสังคมออนไลน์รวมถึงสิ่งท่ีสร้างความกดดันให้กับเรา ไม่ต้องรู้สึกผิดเมื่อต้องปฏิเสธ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งจากการพูดคุย เคารพความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างจริงใจ ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบทั้งของตนเองและผู้คนรอบข้าง เปลี่ยนแปลงบรรยากาศด้วยการจัดโต๊ะทำงานใหม่ ปรับรูปแบบการทำงานที่น่าเบื่อและจำเจให้สร้างสรรค์และสนุกขึ้น หรือจะเปลี่ยนทรงผม การแต่งหน้า การแต่งตัว เพื่อเพิ่มสีสันก็ได้
ลองหาเพื่อนคู่หูทั้งในเรื่องการทำงานและเรื่องส่วนตัวดูสิ! เพราะบางครั้งสิ่งที่เก็บและแบกทุกอย่างเอาไว้คนเดียว ก็อาจจะทำให้อะไรๆ ผ่านพ้นไปได้ยากกว่าการพูดคุยกัน ดังสุภาษิตที่ว่า “สองหัวดีกว่าหัวเดียว” ซึ่งการมีบัดดี้ที่ดีเราจะมีคนคอยช่วยกระตุ้น สนับสนุนในสิ่งที่เราไม่มั่นใจ และเป็นพลังงานที่ดีให้เรากล้าที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นๆ หรือเมื่อเจอปัญหาเราก็ยังมีใครสักคนให้ปรึกษาหาทางออก แต่พอถึงเวลาเศร้าซึมของพวกเขาบ้างก็อย่าลืมรับบทเพื่อนที่ไว้ใจและพร้อมรับฟังพวกเขาบ้างล่ะ
อีกหนึ่งเทคนิคในการลดความเครียดหลังวันหยุดยาวที่ได้ผลนักก็คือทริปต่อทริป หรือการการวางแผนท่องเที่ยวในวันหยุดยาวครั้งต่อไปในทันทีเพื่อสร้างแรงฮึบครั้งใหญ่ ก็ทำงานเพื่อเก็บเงินไปเที่ยวต่อเลยสิจะมัวเศร้าอยู่ทำไม! ทริคนี้จะช่วยให้คนซึมทั้งหลายสามารถกลับมาจัดสรรปริมาณงานในแต่ละวันได้ คอยใจจดใจจ่ออยากจะทำงานให้เสร็จ เพื่อจะได้เตรียมแผนสำหรับท่องเที่ยวและเก็บเงิน มีความสุขกับเวลาที่เหลืออย่างกระชุ่มกระชวยเพื่อนับถอยหลังสู่การเดินทางครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึง
สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายกลุ่มสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำ ติดต่อบอร์เนียวฯ โทร 02-0814900
TH
EN