บอร์เนียวรีวิว: 7 เคล็ดลับ ขับขี่จักรยานยนต์ในฤดูฝนอย่างไรให้ปลอดภัยจากถนนลื่น

ในขณะที่ประเทศไทยของเรากำลังมีมรสุมปกคลุมซึ่งถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญของผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก และสำหรับผู้ที่เดินทางไปทำงานโดยเฉพาะผู้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ต้องเนื้อตัวเปียกปอนจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น ถึงแม้เราจะคอยสังเกตแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ อันตรายรอบตัวจึงอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ดีคุณสามารถเตรียมความพร้อมให้กับตนเองได้ กับ 7 เคล็ดลับ ขี่จักรยานยนต์ในฤดูฝนอย่างไรให้ปลอดภัยจากถนนลื่น ที่บอร์เนียวฯ พร้อมนำมาแบ่งปันให้กับทุกท่าน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนท่ามกลางสภาพอากาศที่ย่ำแย่กันค่ะ!

7 เคล็ดลับ ขับขี่จักรยานยนต์ในฤดูฝนอย่างไรให้ปลอดภัยจากถนนลื่น

🏍 7 เคล็ดลับ ขับขี่จักรยานยนต์ในฤดูฝนอย่างไรให้ปลอดภัยจากถนนลื่น 🛵

1️⃣ เช็คสภาพรถให้พร้อม
ตรวจสอบภาพรถของเราตั้งแต่ระบบเบรก น้ำมันเครื่อง ระบบไฟส่องสว่าง สัญญาณไฟเลี้ยว และแตร ตลอดจนลมยางและดอกยาง เพื่อที่เราจะสามารถควบคุมรถให้พร้อมเกาะถนน พร้อมลุยฝนอย่างมั่นใจ

2️⃣ อุปกรณ์กันฝนของคนขับ
โดยปกติผู้ขับขี่รถจักรยานต์ยนต์จะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างหมวกกันน็อคเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องมีติดเบาะเอาไว้ก็คือเสื้อกันฝนหรือเครื่องแต่งกายที่มีคุณสมบัติกันน้ำและมีสีสันสดใส เพื่อให้รถยนต์หรือรถคันอื่นสามารถมองเห็นเราได้จากระยะไกลนั่นเอง

3️⃣ ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วที่เหมาะสม
เมื่อฝนตกเราควรขับขี่รถด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับทัศนวิสัยในการมองเห็น เพราะการขับรถเร็วในขณะที่ถนนกำลังเปียกและลื่นนั้น ผิวยางของเราจะยึดเกาะถนนได้น้อยลง ทำให้เกิดอันตรายเวลาเข้าโค้งตลอดจนเสียการควบคุมรถอีกด้วย

4️⃣ ไม่เบรกกะทันหันและเผื่อระยะเบรก
หลังจากลดความเร็วแล้ว เราควรผ่อนคันเร่งเพื่อชะลอความเร็วแทนการเบรกกะทันหัน จากนั้นให้เราเผื่อระยะเบรกด้วยการเพิ่มระยะหยุดรถให้ยาวขึ้นกว่าเดิม เริ่มจากแตะเบรกหลังตามด้วยเบรกหน้า เพื่อความปลอดภัยจากการเกิดอุบัติเหตุ

5️⃣ เมื่อพบกับน้ำท่วมขัง
ชะลอความเร็วและสังเกตระดับความลึกของน้ำจากรถคันหน้าโดยขับตามไปช้าๆ ถ้าจำเป็นต้องลุยน้ำควรใช้เกียร์ต่ำในความเร็วคงที่ เพื่อให้แรงดันจากท่อไอเสียดันน้ำออกมา และห้ามดับเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด เพราะหากรถของเราดับระหว่างทาง อาจส่งผลให้ตัวรถเสียหายหรือช่วงล่างพังได้

6️⃣ ใส่ใจระบบไฟอยู่เสมอ
ขณะที่ฝนตกนั้นทัศนวิสัยในการขับขี่ของเราจะน้อยลง การเปิดไฟหน้ารถไว้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากรถคันอื่นจะสามารถมองเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้เราควรใช้ไฟต่ำในการขับขี่แทนการใช้ไฟสูง เพื่อไม่ให้ไฟรถของเราไปสะท้อนกับเม็ดฝนและน้ำขังซึ่งอาจทำให้เกิดตราย

7️⃣ ประเมินสถานการณ์ หากไม่ไหวให้หาที่หลบฝน
หากฝนตกหนักจนไม่สามารถมองเห็นเส้นทางข้างหน้าในระยะ 10 เมตร เราควรประเมินสถานการณ์และหยุดพักรถ ณ จุดปลอดภัยข้างทางจนกว่าฝนซาหรือหยุดตก เพราะหากฝืนเดินทางต่อไป อุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงอาจเกิดขึ้นได้

สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์จากแบรนด์ชั้นนำ ติดต่อบอร์เนียวฯ โทร 02-0814900

อ่านฉบับภาษาอังกฤษที่นี่!

Tags